คนอื่นในตัวเรา

อาคารเล็กๆ ชั้นเดียวถูกคั่นด้วยกระดานไวท์บอร์ดเพื่อแบ่งชั้นเรียนออกเป็น Grade 1-8 แต่ละ Grade มีเด็กอยู่ประมาณ 10 กว่าคน นั่นหมายความว่าทั้งศูนย์การเรียนมีเด็กและครูเกือบๆ 100 ชีวิต

เสียงของแต่ละชั้นเจื้อยแจ้วสลับกันไป ครูถาม เด็กตอบ ยกไม้ยกมือกันแสดงความเห็น ภาษาเขียนและเสียงพูดไม่คุ้นหู้คุ้นตา เพราะมันคือภาษาพม่าซึ่งเป็นรากเหง้าของพวกเขา

เดินออกมาจากสิ่งที่เรียกว่าโรงเรียน ทั้งซอยเต็มไปด้วยคนพม่า บ้างมาจากมะริด บ้างมาจากทวาย พวกเขาแบกชีวิตหอบครอบครัวมาทำมาหากินในประเทศไทย เพราะค่าแรงที่พม่าน้อยมาก ที่ไทยแพงกว่า แต่กระนั้นก็ไม่ได้มากอย่างที่ควรจะเป็น นายจ้างมักกดค่าแรงและสวัสดิการต่ำกว่าคนไทยด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า นายมันคนพม่า

เวลามิตรสหายไทยแท้อารมณ์ขึ้นขึงขังมักต่อว่าต่อขานด้วยความชิงชังเพื่อนมนุษย์ บ้างไล่เขากลับประเทศ บ้างบอกว่าได้แค่นี้ก็เป็นบุญคุณล้นพ้นแล้ว ต่อเมื่อพวกเขากลับจริงด้วยข้อกฎหมายบางฉบับที่ทะเล่อทะล่าประกาศใช้ ธุรกิจแทบทุกประเภทก็สะดุดหยุดกึก ด้วยพวกเขาคือแรงงานที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ทุกซอกมุมเมือง

เราไม่รู้สึกรู้สาเท่าไหร่หากต้องไปทำงานล้างจานในประเทศตะวันตก และเราก็หลงลืมว่ากุลีจีนที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาขายแรงในแผ่นดินไทยเมื่อร้อยปีที่แล้วเป็นอย่างไร

สายตาที่เรามองลูกหลานของเขาก็มีตรรกะแปลกๆ หากเป็นลูกพม่าเรามักหน้านิ่วคิ้วขมวดแต่หากเป็นลูกฝรั่งตาน้ำข้าว ความน่ารักน่าเอ็นดูก็จะมากขึ้นทวีคูณ ทั้งที่สถานะบุคคลของเขาเหล่านั้นไม่ต่างกันเลย

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา