กุ้งฝอย

ไซดักกุ้ง ของเช้านั้น

เอาขวดน้ำอัดลมมาหั่นช่วงคอให้ขาด แล้วหันปากของมันเสียบเข้าเป็นเดือย ไม้ไผ่เจาะจากบนลงล่างเพื่อทำให้ปากและตัวยึดติดกันแน่น และเผื่อความยาวเอาไว้เพื่อปักลงผืนดินอีกสักฟุต

ช่วงลำตัวของขวดเอาเหล็กแหลมยัดเตาถ่านให้แดงแล้วแทงขวดให้เป็นรูเล็กๆ หลายๆ จุด แบบไม่ต้องพิถีพิถัน รูนี้จะช่วยให้ขวดจมน้ำและมีอากาศเข้าไปข้างใน แต่ต้องไม่ใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้สิ่งที่ดักจับหลุดรอดออกมา

เอารำผสมข้าวสวย เทน้ำปลาร้าเน่าๆ ลงไปแล้วตำให้เหนียว จากนั้นปั้นเป็นก้อนเท่าคำข้าวยัดลงข้างในเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ

ทำแบบนี้ซ้ำๆ ให้ได้สัก 100 อันขึ้นไป จากนั้นของพวกนี้จะถูกไปวางไว้ริมอ่างเก็บน้ำ ที่โล่งก็ได้ มีหญ้ารกหน่อยก็ดี เอาเป็นว่าแบบไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้น ขอเพียงปักให้จมดินป้องกันการลอยหาย

อุปกรณ์ที่ว่านี้คือไซดักกุ้งที่ทำจากพลาสติก

ในวัยเด็กหลังกลับจากโรงเรียนผมทำเช่นนี้แทบทุกวัน เพราะบ้านขายของชำเลยมีขวดน้ำอัดลมสะสมไว้เยอะ หลังบ้านมีโรงสีข้าวจึงมีรำอีกเพียบ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเตรียมของ และอีก 1 ชั่วโมงไปวางไซ หลังจากนั้นรอถึงรุ่งเช้าจึงไปเก็บ

กุ้งจะได้เยอะในช่วงฤดูหนาว แต่ก็ต้องแลกมากับการตื่นเช้าไปสู้หมอก อากาศทั่วไปหนาว แต่เราต่างรู้ว่าในน้ำมักจะอุ่นกว่าเสมอ การไปเก็บไซยามเช้านอกจากได้อบอุ่นร่างกายแล้ว ยังได้แช่น้ำให้หายหนาวไปในตัว

ไซ 100 อันตอบแทนด้วยกุ้งครึ่งหม้อเบอร์ 26 ผมทยอยตักกุ้งฝอยสดๆ ใส่ถุงร้อนขนาด 3×5 ชั่งน้ำหนักถุงละ 1 ขีด พวกมันจะถูกเอามัดใส่หลังรถมอเตอร์ไซค์ แล้วผมจะขับออกขายทุกเช้าในราคาถุงละ 10 บาทถ้วน

“กำปึเด้อ กำปึ” มันเป็นภาษาเขมรแปลว่า กุ้ง แต่เมื่อขับผ่านไปอีกหมู่บ้านต้องเปลี่ยนจาก “กำปึ” เป็น “ตรัยกอง”

การเรียกชื่อ กุ้ง ของแต่ละหมู่บ้านไม่เหมือนกัน หากหมู่บ้านนั้นมีรากมาจากศรีสะเกษมักเรียกว่า “กำปึ” แต่หากเป็นเขมรเจ้าถิ่นก็จะเรียกว่า “ตรัยกอง”

“ตรัย” คือ ปลา
“กอง” คือ ตัวโก่งโค้งงอ
“ตรัยกอง” จึงมีความหมายเช่นนั้นคือ ปลาที่ตัวโก่งโค้งงอ

คนเขมรและกูยเรียกชื่อมันเหมือนกัน ส่วนหมู่บ้านลาวนั้นไม่ต้องแปลให้เสียเวลา “กุ้งเด้อกุ้ง ถุงละ 10 บาท” เป็นอันรู้เรื่อง

กิจวัตรเป็นเช่นนั้นอยู่หลายปี ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนผมสามารถหาเงินได้ 200-300 บาทผ่านการขี่มอเตอร์ไซค์ขายกุ้งฝอยในหมู่บ้านละแวกนั้น แทบไม่มีวันไหนที่ขายกุ้งไม่หมด เพราะมันเอาไปทำอาหารได้ง่าย ใส่แกงก็อร่อย ชุบแป้งทอดนี่ก็เลิศ ใส่ไข่เจียวก็เข้าท่า แต่ที่ยอดนิยมที่สุดคือ กุ้งเต้น อารมณ์หลังบีบมะนาวใส่แล้วคลุกเคล้าพริก หอม น้ำปลา ข้าวคั่ว หากได้เข้าปากทันทีจะมีกุ้งเป็นๆ เต้นอยู่ในปากนั้นยากยิ่งที่จะอธิบาย

นี่คือเรื่องเล่าเกริ่นนำเพียงเพื่อจะบอกว่า ผมถ่ายภาพนี้ที่ตลาดหมู่บ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ เห็นกุ้งเต้นสดๆ ก็คิดถึงวัยเยาว์ คิดถึงอากาศหนาวของเช้านั้น และคิดถึงบ้านที่จากมา

ทั้งหมดที่กล่าวอยากยืดยาวก็เพื่อต้องการบอกเพียงเท่านี้จริงๆ

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา