คิดถึงย่างกุ้ง

จากทะเลสาบอินยา เรามองหารถแท็กซี่สักคันเพื่อเดินทางจาก Kabaraye Pagoda Road มายัง Maha Bandula Road ซึ่งเป็นถนนกลางเมืองอันมี Hostel ที่เราใช้พักพิงมาแล้วหลายคืน

แท็กซี่คันนึงจอดรับ สุภาพสตรี 2 คนทราบว่าเราจะมาแถวเจดีย์ซูเลเช่นกันจึงร้องทักเพื่อขอติดรถไปด้วย ที่นั่นเราสามารถแชร์ค่ารถกับคนแปลกหน้าได้ เงินจ๊าดที่ต้องจ่ายจึงน้อยลงตามจำนวนนับที่เพิ่มขึ้น

บนรถ เธอถามว่าเราอยู่ในย่างกุ้งกี่วันแล้ว พอทราบว่าเป็นวันที่ 4 หรือ 5 เห็นจะได้ก็ตกใจ และถามไถ่ว่าทำไมไม่ไปเมืองอื่นบ้าง

คำตอบของผมคือ ย่างกุ้งเป็นเมืองที่อยู่ในความทรงจำของตำรามานาน แต่เรากลับรู้จักมันน้อยมาก และผมเองนิยมชมชอบการเที่ยวชมเมืองทุกตรอกซอกซอย เดินตั้งแต่เช้ายันค่ำก็ได้ถ้าจำเป็นอยู่แล้ว จำนวนวันของการอยู่นี่อาจดูมาก แต่ก็น้อยนิดหากเทียบกับปรารถนา

นัยสำคัญอีกประการที่ผมไม่ได้ตอบกลับไปก็คือ ผมไม่คิดว่าประเทศนี้จะมีเสถียรภาพเท่าใดนัก การจะได้กลับไปอีกคราคงไม่ใช่เรื่องง่าย ความเชื่อลึกๆ ของผมก็คือ คงอีกไม่นานระเบิดเวลาก็จะกลับมาทำหน้าที่ของมัน แม้ว่าใครต่อใครจะพยายามปลดสลักครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม

จาก downtown สู่สลัม ขึ้นรถไฟ ลัดเลาะตึกแถว อยู่ใจกลางห้างสรรพสินค้า ถนนในยามค่ำคืน ตึกเก่าสมัยอังกฤษปกครอง มหาเจดีย์ชเวดากอง ฯลฯ คือพิกัดตลอดสัปดาห์ของการอยู่ในย่างกุ้ง

กิน อยู่ หลับ นอน และสบตาของผู้คน – คนที่อาจไม่นานจะกลายเป็นศพ

พบเห็นแล้วจากลา

หลายปีถัดจากนั้นก็อย่างที่เห็น เมียนมากลับสู่ loop เดิมอีกครั้งคือการยึดอำนาจประชาชน การลุกฮือต่อต้าน และการสาดกระสุนกลางเมือง

วันที่สำนักข่าวต่างๆ รายงานการปะทะกันระหว่างฝ่ายเผด็จการทหารกับประชาชนที่ลุกสู้ ผมได้ยินเสียงปืนมากจำนวนนัด คลับคล้ายคลับคลาว่าหลายๆ พิกัดบนภาพข่าวเป็นจุดที่เราเดินเท้าอยู่ที่นั่น กิน อยู่ หลับ นอน และสบตากับผู้คน – คนที่กลายเป็นจำนวนนับที่ไม่หายใจ เพื่อแลกกับอำนาจประชาธิปไตยที่ถูกปล้นชิง

ผมนึกถึงพวกเขา

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา