14 สิงหาคม 2013
นางจันดี โพธิสาร เกิดมาจะ 60 ปีแล้วยังไม่มีหลานเป็นของตัวเอง แต่ถึงแม้ไม่มีหลานเด็กๆ ก็วิ่งพล่านมาอยู่ในบ้านตั้งแต่เช้าจรดเย็น ลูกคนนั้นบ้าง ลูกคนนี้บ้าง แวะเวียนมาสร้างความขบขันปนปวดกบาลอยู่ไม่ขาดสาย
กระทั่งไม่นานมานี้ นางจันดีรู้เพิ่งตัวว่าจะมีหลานคนแรก นี่ไม่ใช่ฝีมือของนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่เป็นผลงานของลูกสาวคนสุดท้องล้วนๆ
12 สิงหาคม ถูกกำหนดให้เป็นวันแม่แห่งชาติ นางจันดีผู้ไม่สนใจใยดีต่อปฏิทินเฝ้ามองโทรศัพท์ทั้งวัน แต่กลับไม่มีเสียงเรียกเข้าจากลูกชายบังเกิดเกล้า
โชคดีที่เธออารมณ์ดี ไม่มีเสียงโทรศัพท์ก็ดี เธอจะได้ทำงาน กระนั้นก็ยังไม่วายวางโทรศัพท์ไว้ไม่ห่างตัว
ลูกชายบังเกิดเกล้า ผู้รำคาญต่อ Propaganda ปฏิเสธการชวนเชื่อด้วยการนอนเกาหำฟังเสียงฝน นางจันดีเข้าใจดีว่าลูกชายของเธอเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์ใด เธอมั่นใจว่าได้เบ่งมันออกมาจากช่องคลอดด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นสายพันธุ์และมันสมองของเธอย่อมถ่ายโอนไปยังลูกชายไม่มากก็น้อย
ลูกชายของเธอมีแม่คนเดียว และแผ่นดินที่ทำมาหากินก็มาจากน้ำพักน้ำแรงที่ทุ่มสุดกำลังมาทั้งชีวิต หาได้มีเทวดาใดเสกสรรค์ปันแบ่งมาให้
ที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอไม่เคยไล่ลูกชายออกจากแผ่นดินที่เธอและครอบครัวซื้อมันมาด้วยน้ำตาในราคาแพงเท่าชีวิต
13 สิงหาคม ลูกชายของเธอปลดล็อคโทรศัพท์ กดปุ่ม Contact และ Search หาชื่อ “จันดี โพธิสาร” ก่อนกดปุ่มโทรออก ขณะที่ฝนตอนค่ำเริ่มลงเม็ดอีกครา เสียงของเธอขณะรับสายคล้ายจะหยุดเม็ดฝนให้แน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
สดใส ตื่นเต้น อิ่มเอม คืออาการที่เธอพร่างพรูมันออกมาแต่เพียงฝ่ายเดียว
แน่นอน มันเป็นเช่นนั้นเสมอ เธอมักเป็นผู้พูดที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังโต้แย้ง ผมจึงได้แต่เพียงส่งเสียงให้เธอรับรู้เป็นระยะๆ ว่ายังฟังอยู่เท่านั้น
“อือ…ครับ…แหม่นติ๊…สะเดย…บาท” สลับกันอยู่อย่างนั้นราวชั่วโมงนึงเห็นจะได้
เนื้อหาวนเวียนอยู่กับเรื่อง “เมกะโปรเจกต์” ที่เธอเพิ่งเอาจอบไปฟันดินมา
มันสำปะหลังที่ปลูกไว้ถอนขายหมดแล้ว ยางพาราไม่ได้กรีด จะโละไร่อ้อยทั้งหมด ถั่วฝักยาวฉ่ำน้ำฝนทุกวันตอนนี้กำลังทยอยขาย ต้องสร้างกระท่อมใหม่ไว้ที่ไร่เพราะหลังเดิมทรุดมากแล้ว
20 นาที นี่คืองานของเธอที่เล่าให้ฟังเพื่ออัพเดตสถานการณ์ ที่เหลือราว 30-40 นาที พูดถึงลูกสาวที่กำลังจะมีหลาน
ตอนที่นางจันดีมีลูกเป็นของตัวเอง ผมจำได้ว่าเธอไม่ถนัดถนี่กับการฟูมฟักเหมือนแม่ลูกคนอื่นๆ เอาเสียเลย
เธอเลี้ยงลูกทุกคนด้วยไม้เรียว ฝ่ามืออรหันต์ และปากตะไกรที่แทบจะสับร่างผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามให้ขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ ไม่ว่ามันผู้นั้นจะดำรงสถานะเป็นเพียงทารก เด็กชาย หรือวัยรุ่น ในบรรดาลูกทั้งหมดที่เธอคลอดออกมา ผมน่าจะเป็นคู่ต่อกรที่พอฟัดพอเหวี่ยง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ เป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด
เราต่างเป็นร่างทรงของกันและกัน
แต่ในวัยใกล้เกษียณ ในวันที่คู่ชีวิตของเธอกลายร่างเหลือเพียงเถ้าธุลี ความโดดเดี่ยวบั่นทอนความห้าวเป้งของเธอจนลดระดับแทบติดลบ ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะฟื้นมันกลับมาได้
สิ่งที่สังเกตเห็นในวันนี้คือ ความโหดสัสของเธอลดลง ความอ่อนโยนเริ่มผุดให้เห็นผ่านถ้อยคำระรื่นหู แม้ความหวัง ความฝันของเธอยังคงแขวนไว้ที่ปลายฟ้าเช่นเดิม แต่เธอก็มองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
รูปประโยคของการพูดคุยมีคำว่า “หลาน” แทรกอยู่แทบทุกบรรทัด
นี่คือเรื่องเล่าในวันที่ 14 สิงหาคม ผ่านสิ่งมีชีวิตเพศหญิงที่ชื่อว่า “จันดี โพธิสาร” ผู้ดำรงตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งดาวพลูโต